วันพฤหัสบดีที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2564

ประสบการณ์ตรงในดงโควิด: ก่อน DAY 1

 "โควิดมองไม่รู้ ดูไม่เห็น ติดง่าย!! จงป้องกันตัวเองอย่างเข้มข้นสูงสุด"

ก่อน DAY 1 คือ ก่อนที่จะมารักษาตัวที่ Hospitel ผมคิดว่าข้อมูลก่อนจะมาเข้าสู่ระบบ Hospitel อาจจะเป็นประโยชน์กับชาวเราบ้างครับ จึงขอเล่าย้อนกลับ เหมือนหนังสตาร์วอร์

ก่อน DAY 1 ประมาณ 10 วัน ปกติภรรยาอยู่บ้านไม่ค่อยได้ออกไปไหน ยิ่งโควิดระบาดหนักยิ่งไม่อยากออกไป แต่ช่วงนั้นได้ใส่ mask ออกไปซื้อของกินของใช้จำเป็นในบ้าน ที่ซุปเปอร์มาร์เกตใหญ่ใกล้บ้าน 4 วันติดต่อกัน เนื่องจากได้ของไม่ครบเพราะของในซุปเปอร์มาร์เกตขาดตลาด อันนี้น่าจะเกิดจากผู้คนตุนของใช้เมื่อรู้ว่า ศบค.จะล็อคดาวน์อีกหลายวัน ผมทราบว่าบ้านใกล้เรือนเคียงละแวกเดียวกันในรัศมีร้อยเมตรทะยอยติดโควิดเพิ่มขึ้น บางบ้านเห็นมีรถพยาบาลฉุกเฉินมารับ บางบ้านเสียชีวิต มีอยู่วันหนึ่ง เราขับรถกลับบ้านเข้าซอยมาอีกประมาณ 300 เมตรจะถึงบ้าน เห็นผู้ชายสวม mask นอนนิ่งริมถนนในซอย มีเจ้าหน้าที่สวมชุด PPE ดูแลอยู่ ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น เจ้าหน้าที่ได้แต่โบกมือให้ผมขับรถต่อไปให้พ้นตรงจุดนี้

และแล้ว ภรรยาเริ่มมีอาการเหมือนไข้หวัด มีน้ำมูก ใส ไอ จาม ผมดูแลใกล้ชิด จัดแยกนอนคนละห้อง อาการของภรรยาเพิ่มมากขึ้นในสองสามวัน ในที่สุดจึงพาไปหาหมอที่รพ.เอกชน ตาหูคอจมูก คุณหมอตรวจ/ซักอาการท่านบอกว่า ไม่น่าจะเป็นไข้หวัดธรรมดา ให้ตรวจโควิดดีกว่า แต่ที่รพ.ไม่มีบริการ เราจึงกลับมาบ้าน รพ.ไม่คิดค่าบริการด้วย ขอบคุณคุณหมอครับ

เมื่อถึงบ้านตอนค่ำ ลูกชายรีบนำชุดตรวจ ATK มาให้ ผมใช้ ATK ตรวจภรรยา โดยใช้ไม้ swab สอดเข้าทางรูจมูกลึกให้ถึงตำแหน่งที่ต้องการ ใช้นิ้วจับหมุนไม้ swab ช้าๆเบาๆ เพื่อเก็บตัวอย่าง แล้วนำมาใส่ในน้ำยาที่อยู่ในหลอดน้ำยาสกัด เป็นถ้วยพลาสติกอ่อนเล็กๆ ระหว่างที่ไม้ swab อยู่ในหลอดน้ำยาสกัด บีบถ้วยเพื่อช่วยให้ตัวอย่างที่เก็บมาละลายในน้ำยา แล้วปิดด้วยฝาหลอดหยด สักครู่จึงหยดน้ำยาที่มีตัวอย่างผสมใส่ลงในช่องที่อยู่บนแผ่นตลับทดสอบ ปรากฏว่ามันขึ้นสองขีดแดงที่ตำแหน่ง T และ C อย่างรวดเร็ว ใจผมเริ่มเต้นแรง เพราะรู้ว่า positive จึงบอกภรรยาว่า "ผลทดสอบบอกว่า ย่ามีเชื้อโควิดนะ แต่มันอาจจะ false positive ได้ พรุ่งนี้เราไปทำ RT-PCR กันนะ"

จากนั้น หลานชายเจ้าคุณ (9ขวบ) ซึ่งเล่นกับย่า (ภรรยาผม) ทุกวัน พร้อมด้วยลูกๆ ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง จึงรีบแยกไปกักตัวที่บ้านอีกหลังหนึ่งในทันที ส่วนลูกอีกคนอยู่ด้วยกันต่อไปคอยดูแลพ่อและแม่ และแยกห้อง แยกโซน เป็นการกักตัวตามระยะเวลา 14 วันด้วย

อย่างที่ชาวเราทราบดี หากโควิดลงปอดจะอันตรายมาก บอกตามตรงว่าเราไม่ได้เตรียมการเรื่องออกซิเจนไว้ก่อนหน้านี้เพื่อสำรองไว้ที่บ้าน ในขณะที่ตัวเลขผู้คนติดเชื้อโควิดพุ่งทะยานรุนแรงอยู่ที่สองหมื่นคนต่อวัน ด้วยมิคิดว่าจะโดนแจ็คพอต วันรุ่งขึ้น ได้ข่าวจากลูกว่า ออกซิเจนตามร้านขายยาและเครื่องมือแพทย์แถวรพ.ศิริราชและออนไลน์ขาดตลาด แม้แต่เครื่องผลิตออกซิเจนก็ขาดตลาด จึงได้แต่เครื่องวัด O2Sat เท่านั้น สถานการณ์ของเรายิ่งทำให้ผมกังวลมาก ด้วยเหตุที่ภรรยานั้น sixty up แล้ว อยู่ในกลุ่มเสี่ยง 608 มีโรคประจำตัวคือภูมิแพ้ แต่ก็ได้รับวัคซีนแล้ว คือ ป้องกันไข้หวดใหญ่ ป้องกันปอดอักแสบ 23 สายพันธ์ และล่าสุดคือวัคซีนโควิด AZ (เมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา) บ่ายวันนั้น ทุกคนในครอบครัวไปตรวจแบบ RT-PCR เพื่อความรวดเร็วจึงยอมเสียเงินไปตรวจที่แลปเอกชน ที่ PCT Laboratory

หลังจากทำการตรวจแบบ RT-PCR แล้ว วันถัดมาวันเดียวได้รับแจ้งผลการตรวจจาก PCT Laboratory ว่า ภรรยาและผม detected ส่วนลูกๆและหลานชาย not detected ทั้งที่รู้อยู่ในใจแล้วว่าภรรยาคงติดเชื้อโควิด แต่ตื่นเต้นครับ ยิ่งรู้ผลว่าตัวเองติดโควิดด้วย ก็ตื่นเต้นไปเลยแล้วกัน แต่พอรู้ตัว ตั้งสติ คิดไว้ล่วงหน้าแล้วว่าจะทำอย่างไร จึงทำทันที แต่แอบคิดคนเดียวว่า สงครามโรครอบนี้ หากมีอะไรเกิดขึ้นกับเรา ที่มันพัฒนาไปจนถึงขั้นต้องล้มหายตายจากไป ก็สุขใจ เพราะ ได้อยู่ใกล้คนที่เรารัก และที่ผ่านมาได้อยู่กับครอบครัวที่อบอุ่นมาตลอด มีหลานชายน่ารักที่ช่วยเติมพลังชีวิต ได้ร่วมปลูกต้นไม้รังสีเทคนิคที่ให้ความร่มเย็นกับผู้คนทั้งประเทศ

สิ่งที่ทำทันทีคือ

👉ลูกจัดการโทร. 1330 ลงทะเบียนแจ้ง สปสช. ในระบบ สปสข. แจ้งว่าจะติดต่อกลับภายในสองวัน ผลปรากฏว่า อีก 5 วันจึงโทรกลับมา ซึ่งเป็นวันที่เรามาอยู่ Hospitel เข้าวันที่สามแล้ว เราจึงได้แจ้ง สปสช.ว่า Hospitel RRP รับเราไว้ดูแลแล้ว เป็นอันปิดจ๊อบ สปสช. 1330 เห็นใจจนท.เพราะสงครามโรคมันรุนแรง ติดเชื้อรายวันระดับสองหมื่น อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารที่รับผิดชอบระบบนี้ควรปรับปรุงให้สามารถรองรับสถาณการณ์ฉุกเฉินได้ทันการมากกว่านี้ครับ

👉ผมได้ส่งข้อมูลทั้งหมดให้ลูกศิษย์ที่อยู่รพ.ตากสินซึ่งใกล้บ้านเพื่อทำ HI ทันที เป็นการคู่ขนานกับการแจ้ง สปสช. รพ.ตากสินรับเราเข้าระบบ HI ซึ่งเป็นระบบที่เพิ่งจัดตั้งขึ้น ได้ทราบว่าผู้ป่วยโควิดที่ตากสินล้นหลาม เราวัด vital sings วันละ 2 ครั้งบันทึกไว้ดูการเปลี่ยนแปลง ผมเองยังไม่มีอาการ แต่ภรรยา ไอมากและเหนื่อย คิดถึงการทำ CXR มาก เพื่อจะได้รู้ว่าปอดของเราเป็นอย่างไรบ้าง ถ้าเรา HI เราจะทำ CXR อย่างไร??

👉เรียนแจ้งผู้บังคับบัญชา รองอธิการบดี ม.รังสิตเพื่อทราบ และได้รับความห่วงใย ดูแล สอบถาม vital sings ทุกวัน เพราะท่านเป็นแพทย์ ท่านให้กำลังใจ "อาจารย์และภรรยาฉีด AZ เข็มแรกมาเดือนกว่า ภูมิน่าจะขึ้นเยอะ ไม่น่าเป็นไรมาก" แล้วท่านได้ประสานคณบดีเภสัชส่งยาฟ้าทะลายโจรที่เป็นสารสกัดที่มีปริมาณสารแอนโดรกราโฟลไลน์สูงและยาไบโซลวอลที่จำเป็นรวมถึง วิตามิน C และ D มาให้อยากรวดเร็ว🙏 โดยก่อนหน้านั้นเรากินฟ้าทะลายโจรจากคณะเภสัช .รังสิต ท่านคณบดีเภสัชกรุณาส่งมาให้🙏ตามโดสที่ท่านคณบดีเภสัชกำหนด

👉แจ้งไปที่คณะรังสีเทคนิค ม.รังสิต ทันใดมหาวิทยาลัย ส่งจนท.มาฉีดพ่นฆ่าเชื้อในอาคาร ส่วนบุคลากรของคณะรังสีเทคนิคที่ใกล้ชิดผมนานๆย้อนหลัง 14 วันที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ทำ ATK โชคดีไม่มีใครพบเชื้อ

👉ตัดสินใจโพสตฺ์ FB ซึ่งเป็นวันที่ผู้ติดเชื้อทะลุสองหมื่นเป็นครั้งแรกของไทย โดยบอกชาวเราว่า "วันนี้ติดทะลุสองหมื่นจนได้ ผมและภรรยารวมอยู่ในนี้ด้วย Home isolation ครับ สู้ๆครับ" เท่านั้นเอง ได้เห็นพลังบวกของโซเชียลเน็ตเวิร์คสูงมาก🙏 เราตระหนักในพลังบวกของโซเชียล หลังจากโพสต์ FB แพร๊บเดียว มีอาจารย์หมอ/ลูกศิษย์ จำนวนมากแสดงความห่วงใย และบอกว่าอาจารย์จะให้ผม-หนู ช่วยอะไรบอกมาเลย บ้างชวนให้ไปแอดมิดที่รพ. บ้างบอกมีเครื่องผลิต O2 ถ้าฉุกเฉินจะเอาไปให้🙏 บ้างส่งยาฟ้าทะลายโจรอภัยภูเบศร์ บ้างส่งสมุนไพรแก้แพ้มาให้ บ้างส่งมังคุดมาให้ ฯลฯ

อาจารย์หมอท่านหนึ่ง จากรพ.จุฬาภรณ์ รู้จักนับถือกัน น่ารักมากครับ ทราบข่าวจาก FB  ท่านอินบอกซ์มาถึงผมตอนบ่าย ขอที่อยู่บอกจะส่งยาฟาวิพิราเวียร์มาให้ บอกว่า อาจถึงเย็นๆ หรือวันรุ่งขึ้น เวลา 20:30 ผมได้รับโทรศัพท์จากอาจารย์หมอ "บ้านอาจารย์หลังไหนคะอาจารย์" ผมตอบว่า บ้านหลังสีเขียวอ่อนประตูสแตนเลส ปรากฏว่า มีรถคันนึงมาจอดที่หน้าบ้าน เป็นอาจารย์หมอครับ ขับรถมาเอง เปิดประตูรถแล้วรีบนำยามาแขวนที่ประตูบ้าน ผมสวม mask ยืนห่างๆ "ขอบคุณมากครับหมอ นี่มันสองทุ่มครึ่งจะเคอร์ฟิวแล้วนะ" ท่านบอกว่า "ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวหนูซิ่ง" 🙏 ชาวเราครับ มันเป็นความรู้สึกที่ยากจะบรรยายได้จริงๆ เราสองคนรีบกินยาฟาวิพิราเวียร์ทันที 9 เม็ดหลังอาหารคืนนั้นเลยเป็นมื้อแรก และอีก 9 เม็ด ในตอนเช้า วันต่อมากินหลังอาหารครั้งละ 4 เม็ด เช้าเย็นจนยาหมด ซึ่งจะใช้เวลาห้าวัน

ตกดึกคืนเดียวกัน ได้รับข้อมูลอินบอกซ์ใน FB ของผม ปรากฏข้อมูลที่ทำให้เราสามารถมารักษาตัวที่ Hospitel RPP ได้ในวันรุ่งขึ้นเวลาบ่ายโมงให้ไปถึง พอตื่นเช้า ผมรียแจ้งลูกศิษย์ที่รพ.ตากสินเรื่องจะไปรักษาที่ Hospitel RPP ซึ่งรพ.ตากสินได้เตรียมยาไว้ให้พร้อมแล้ว ก็เลยแจ้งลูกศิษย์ว่า ให้นำยาไปให้ผู้ป่วยรายอื่นต่อไปนะ และ discharge จาก HI ไปเข้าสู่ระบบ Hospitel

สิ่งที่เกิดขึ้นก่อน DAY 1 สิ่งที่ผมและภรรยาได้รับ เป็นความห่วงใย เป็นกำลังใจ เป็นความช่วยเหลือที่รวดเร็วฉับพลัน จนผมรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณชาวเรา ขอบคุณมากครับ🙏

-- จบ ก่อน DAY 1 --


Related Links:

1.ประสบการณ์ตรงในดงโควิด: DAY 1

2.ประสบการณ์ตรงในดงโควิด: DAY 2-9

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น