วันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2555

แรงดูดแรงผลักของความคิด



(681 ครั้ง)
เราเรียนรู้มานานตั้งแต่เด็กๆแล้วว่า แรงในทางฟิสิกส์ที่สำคัญ คือ แรงระหว่างมวล แรงระหว่างประจุไฟฟ้า และแรงนิวเคลียร์

แรงระหว่างมวลเกิดจากมวลของสาร เป็นแรงดูดอย่างเดียว มีขนาดอ่อนมาก

แรงระหว่างประจุไฟฟ้าเป็นแรงที่มีขนาดปานกลาง มีทั้งแรงดูดและแรงผลัก ประจุไฟฟ้าเหมือนกันจะผลักกัน ประจุไฟฟ้าต่างกันจะดูดกัน คือ ประจุบวกดูดประจุลบ ประจุบวกผลักประจุบวก ประจุลบผลักประจุลบ

แรงนิวเคลียร์ เป็นแรงที่มีขนาดสูงมาก เป็นแรงดูดอย่างเดียว เกิดในระยะประชิด เช่น ภายในนิวเคลียสของอะตอม โปรตอนดูดกับโปรตอนด้วยกระบวนการแลกเปลี่ยนอนุภาคสนามที่เรียกว่า pi-meson เป็นต้น 

แรงความคิด หันมามองความคิดของคนเรา มีคำถามน่าสนใจคือ ความคิดของเรามีแรงเกี่ยวข้องไหม คำตอบคือ น่าจะมี

ก่อนอื่น ขอนำความคิดมาเชื่อมโยงกับการทำงาน คือการทำหน้าที่ของทุกคนตามช่วงจังหวะย่างก้าวของชีวิตแต่ละคน บางคนอาจกำลังเรียนหนังสือ บางคนอาจทำงานแล้ว ซึ่งจะพบความจริง คือ การกระทำของเราหรือการทำงานจะปรุงแต่งความคิดเราให้ไปทางไหนก็ได้ ดีก็ได้ แย่ก็ได้ บวกก็ได้ ลบก็ได้ การกระทำกับความคิดต่างฝ่ายต่างปรุงแต่งกัน 

บางคนอาจคิดแย้งในใจว่า เราทำงาน ไม่ว่าจะทำงานหาเงินเลี้ยงชีพหรือเรียนหนังสือ เราก็ต้องทำให้ดีปรุงแต่งงานให้ผลลัพธ์ออกมาดีซิ งานจะมาปรุงแต่งความคิดเราได้อย่างไร เราเป็นคนทำงานนี่นาจริงไหม 

อยากจะชวนให้พิจารณาให้ดีๆ เรื่องนี้มันสอดคล้องกับกฎการเคลื่อนที่ของนิวตันข้อที่สาม ที่บอกว่า  Action หรือแรงกิริยา เท่ากับ Reaction หรือแรงปฏิกิริยา อย่างน่าอัศจรรย์ หมายความว่า ถ้าเราทำงานอย่างดีเลิศ (action) งานนั้นจะปรุงแต่งความคิดเราอย่างดีเลิศเช่นกัน (reaction) จริงหรือไม่ ไม่เช่นนั้น งานจะออกมาดีเลิศไม่ได้

ความคิดเป็นบวก คนที่ทำงานอย่างตั้งใจ ทำงานอย่างเต็มที่จริงๆ ไม่เอาเปรียบผู้ใด ตรงไปตรงมา ตามหลักตามกฎเกณฑ์ ไม่มีร่องรอยของความบิดพริ้วหรือบิดเบี้ยวไปจากความเป็นจริง ผลงานออกมาสม่ำเสมอ ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง มีอุปสรรคบ้างก็ไม่ย่อท้อ จิตใจความคิดของคนๆนั้น ก็จะถูกงานปรุงแต่งไปในทางดี เรียกง่ายๆว่า คิดบวก และตลอดชีวิตของคนๆนี้ หากเดินมาแบบนี้ จิตใจของเขาแถบไม่ต้องอธิบายเลยว่า เลิศมากแต่ สำหรับบางคนที่มีความเขลามากพอ จะมองคนประเภทนี้ในทำนองแดกดันว่าโง่บรม ทนทำอยู่ได้อย่างไร
    นอกจากนี้ การมองอุปสรรคเป็นเรื่องดีก็ยิ่งดี คิดบวก อย่างน้อยก็ทำให้ได้เห็นจิตใจของตัวเอง ทำให้มองหาโอกาสใหม่ๆ

ความคิดเป็นลบ ในทางตรงกันข้าม คนที่ทำงานซักแต่ว่าขอไปที เอาตัวรอดไปวันๆ โทษโน่นโทษนี่ โทษคนโน้นคนนี้เป็นประจำ แหกกฎเกณฑ์ทำผิดหลักเกณฑ์จนเกิดความเคยชินจนจิตหลงคิดว่าถูกแล้ว  สร้างร่องรอยของความบิดเบี้ยวจากความเป็นจริงไว้มากมาย จนเกิดความวุ่นวาย ผลงานออกมากระท่อนกระแท่น ใช้ได้บ้างไม่ได้บ้าง ทำเรื่องที่ไม่ควรทำหรือไม่ต้องทำ เรื่องที่ต้องทำกลับเรื่องมาก พอมีอุปสรรคนิดหน่อยก็โวยวายใหญ่โต และถือเอาเป็นเหตุไม่ทำงานนั้นเสีย อย่างนี้คืออัตตาธิปไตยเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง จิตใจความคิดของคนๆนั้น ก็จะถูกงานปรุงแต่งไปในทางแย่ เรียกง่ายๆว่า คิดลบ และตลอดชีวิตของคนๆนี้ หากเดินมาแบบนี้ จิตของเขาจะไม่รู้จักคำว่า การให้คืออะไร อันเป็นเหตุให้ ความเห็นแก่ตัวเจริญงอกงามจนถึงที่สุด สำหรับบางคนที่มีความเขลามากพอ จะมองคนประเภทนี้คล้ายชื่นชมว่าเอาตัวรอดเก่งมากๆ และส่งแรงเชียร์ให้เกิดความมั่นใจว่าที่ก้าวเดินมานั้นถูกแล้ว

ย้อนกลับไปที่ ความคิดกับแรงอยากจะบอกว่า ความคิดของคนก็มีแรงดูดและแรงผลัก คล้ายประจุไฟฟ้า ความคิดมีบวกมีลบตามที่กล่าวไปแล้ว แต่ต่างกันที่ คิดลบจะดูดคิดลบ คิดบวกจะดูดคิดบวก คิดบวกจะผลักคิดลบ
หรือพูดง่ายๆคือ คนที่คิดเหมือนกันก็จะรวมกลุ่มกันนั่นเอง เกิดเป็น กลุ่มคิดลบ และ กลุ่มคิดบวก และสองกลุ่มนี้จะมีแรงผลักกันโดยพื้นฐานของการคิดที่ต่างกัน ไม่ค่อยจะเข้าหากัน และคงเป็นไปได้ยากเหลือเกินที่คิดต่างกันจะรวมกลุ่มกันได้ ยกเว้นจะมีศัตรูร่วมกัน

กลุ่มคิดบวก จะมีพลังสร้างสรรค์สูง ในทางตรงกันข้าม กลุ่มคิดลบ มีพลังในการทำลายล้างสูง เราอาจจะพลัดเข้าไปอยู่ในกลุ่มใดก็ได้ สติของเราจะบอกเราได้ ถ้าสติยังดีอยู่จะรู้ตัวได้เอง เลือกเอาจะคิดลบหรือคิดบวก.....จริงๆนะท่าน


2 ความคิดเห็น:

  1. FB:...

    ธารารัตน์ อ่อนอินทร์:...
    ในหนึ่งคน จะมีความคิดของคน มีแรงดูดและผลัก คล้ายประจุไฟฟ้า คือ คิดมีบวกกับ มีลบไปด้วยกันด้วยใช่ไม๊อาจารย์

    Chol Rawe:...
    ขออนุญาตแชร์ค่ะ

    ปูม้า มาลี:...
    ขอบคุณครับอาจารย์ ได้ไอเดียและความรู้ใหม่ๆเพิ่มเยอะเลยครับ ^^"

    ตอบลบ
  2. ความคิดในแต่ละคนน่าจะเหมือนโปรตอนและนิวตรอนในนิวเคลียสของอะตอม ที่มีอนุภาคสนาม พายบวก พายลบ พายศูนย์ ห่อหุ้มอยู่รอบๆ โปรตรอนจะมีพายบวกมากกว่าจึงมีประจุบวก ส่วนนิวตรอนมีพายบวกเท่าพายลบจึงเป็นกลาง ประมาณนี้ ความคิดของใครก็คงต่อสู้กันภายใน ระหว่างบวกกับลบ ถ้าลบน้อยกว่าความคิดก็บวก แต่ถ้าบวกน้อยกว่าความคิดก็เป็นลบ มันป็นเช่นนั้นครับ อย่าเชื่อผมนะต้องไปขบคิดให้จงหนัก

    ตอบลบ