การวิจัยนั้นได้ทดลองเลี้ยงลิงจำนวน 4 ตัวไว้ในกรง ที่กลางกรงขังลิงมีเสาตั้งอยู่หนึ่งเสา ที่ยอดเสามีกล้วยหนึ่งหวีแขวนไว้ เหนือกล้วยขึ้นไปมีฝักบัวสามารถพ่นน้ำออกมาได้ คนเลี้ยงลิงเฝ้าสังเกตุพฤติกรรมของลิงอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีการให้อาหารลิงเลย เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้า ลิงบางตัวเริ่มหิว และหิวจัด เมื่อลิงตัวนั้นทนหิวไม่ไหว มันก็ปีนเสาขึ้นไปเพื่อกินกล้วยที่แขวนไว้ แต่ก่อนที่ลิงตัวนั้นจะปีนเสาขึ้นไปถึงกล้วย คนเลี้ยงลิงจะบังคับให้ฝักบัวพ่นน้ำออกมา น้ำที่พ่นออกมาก็จะถูกลิงตัวที่ปีนเสา ทำให้ตัวมันเปียก สัญชาติญาณของลิงมันกลัวน้ำ มันจึงไต่เสาลงมาอย่างรวดเร็วโดยไม่ได้กินกล้วยเลยแถมตัวมันก็เปียก มันกลัวน้ำมากกว่ากลัวหิว และจากนั้นลิงตัวนั้นก็ไม่กล้าปีนเสาขึ้นไปอีกเลยยอมหิวตายดีกว่า ส่วนลิงตัวที่เหลืออีกสามตัวก็เริ่มหิวตามลำดับ ตัวไหนหิวจัดก่อนก็จะปีนเสาขึ้นไปและก็จะพบเหตุการณ์เหมือนตัวแรก โดยสรุปแล้ว ลิงทั้งสี่ตัวที่อยู่ในกรงมีประสบการณ์เดียวกันหมดคือ ไม่สามารถกินกล้วยที่อยู่บนเสาทั้งที่หิวจะตายและตัวเปียกทุกตัว
ต่อมา คนเลี้ยงลิงนำลิงตัวใหม่ 1 ตัว มาแทนตัวเก่า 1 ตัว ดังนั้นขณะนี้ในกรงจะมีลิงเก่า 3 ตัวและมีลิงน้องใหม่ 1 ตัว รวมเป็น 4 ตัวเท่าเดิม เวลาผ่านไปลิงน้องใหม่เริ่มหิวและสงสัยว่าลิงรุ่นพี่ทำไมจึงนั่งน้ำลายยืดด้วยความหิว ทำไมไม่ปืนเสาขึ้นไปกินกล้วย ลิงรุ่นพี่กับลิงน้องใหม่มันคงคุยกันภาษาลิง ลิงรุ่นพี่เตือนลิงรุ่นน้องว่า อย่าปืนเสาขึ้นไปเด็ดขาดอันตรายมากอะไรทำนองนั้น ดูเหมือนลิงน้องใหม่ไม่ยอมเชื่อเพราะความหิวมันจึงฝ่าฝืนคำเตือนของรุ่นพี่ปืนเสาขึ้นไป ลิงรุ่นพี่เห็นดังนั้นก็ออกอาการโมโหจัดเพราะเตือนแล้วไม่ยอมฟัง ลิงรุ่นพี่ทั้งสามตัวพร้อมกันส่งเสียงเอะอะวิ่งพล่านรอบกรง ลิงน้องใหม่เริ่มลังเลใจหยุดปีนเสาและไต่กลับลงมาทั้งที่ไม่ได้กินกล้วยและไม่ถูกน้ำพ่นใส่ ก็คงพูดภาษากับลิงรุ่นพี่ว่า "จริงหรือพี่ ดีนะที่พี่เตือนไม่งั้นผมหรือหนูคงแย่เลย" จากนั้นลิงน้องใหม่ก็ไม่กล้าปีนเสาขึ้นไปอีกเลย การทดลองดำเนินต่อไปด้วยการเปลี่ยนลิงตัวใหม่เข้ามาแทนลิงตัวเก่าจนครบ 4 ตัวและเหตุการณ์ก็เกิดทำนองเดียวกัน โดยสรุป ขณะนี้ในกรงมีลิงชุดใหม่ทั้งหมด 4 ตัว ไม่กล้าปีนเสาขึ้นไปกินกล้วยทั้งที่หิวจะตายและทุกตัวไม่เคยเห็นน้ำพ่นออกมาจากฝักบัวได้ยินการบอกเล่าจากรุ่นพี่เท่านั้น
การทดลองนี้ยังคงดำเนินต่อไป ลิงชุดใหม่ก็ถูกเปลี่ยนเข้ามาตามลำดับ และได้ข้อสรุปเหมือนกันคือ ลิงใหม่ทุกตัวไม่กล้าปีนเสาขึ้นไปกินกล้วยทั้งที่ไม่เคยเห็นและไม่โดยน้ำพ่นใส่
การทดลองนี้สนับสนุน Genetic Coding ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การถ่ายทอดความคิด กระบวนการคิด พฤติกรรม ฯลฯ จากรุ่นหนึ่งสู่รุ่นหนึ่งเป็นจริงในลิง คำถามคือ มนุษย์เราเป็นแบบนี้หรือไม่ อะไรเป็นคำตอบสุดท้าย มีเหตุผลหลายอย่างที่พอเชื่อได้ว่า มนุษย์ก็มีพฤติกรรมทำนองนี้ไม่แตกต่างจากลิง คงไม่ต้องชักตัวอย่างมากเพราะหลายคนอาจจะพอเห็นตัวอย่างที่เกิดขึ้นรอบๆตัวอยู่แล้ว หรือเกิดแม้กับตัวเอง แต่ตัวเองไม่รู้สึกก็ได้
พฤติกรรมเลียนแบบตามๆกันมา มีเยอะมาก ลองหยุดมองไปรอบๆตัวซิครับ เห็นไหม ตั้งแต่จุดเล็กๆ ไปถึงจุดใหญ่ระดับประเทศ เอาแบบเบาที่เห็นกันอยู่ดาดดื่น เช่น การรับน้องใหม่ การแซงคิวซื้อของ ขับรถแซงคิว ขับรถจี้กันติดๆมากเกินไปจนเกิดอุบัติเหตุง่ายๆ เป็นต้น
ชาวเราจะมีพฤติกรรมเช่นเดียวกับลิงที่เห็นรุ่นพี่ทำมาอย่างไรก็ทำไปตามนั้นโดยไม่ได้คิดว่าสิ่งที่ทำเหมาะสมในสถานะการณ์นั้นๆแล้วหรือไม่ ผมว่ามันมีเรื่องให้คิดเยอะและเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความกล้าในการกระทำที่แตกต่างในทางที่ถูกต้อง
บางเรื่องที่ทำๆกันมาบางทีมันอาจไม่ถูกต้องเหมาะสมก็ได้ แต่ว่าก็ทำมากันจนเคยชินแล้วนานแล้วจนคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างนั้นแหละ ถามว่าทำไมต้องทำอย่างนั้น บางทีคิดไปคิดมาอาจงงๆเหมือนกัน คำตอบคือมันชินซะแล้วโดยไม่ยอมจะเป็นลิงรุ่นใหม่ที่กล้าปีนเสาขึ้นไปกินกล้วยยอมหิวตายดีกว่า ผมอยากให้ชาวเราช่วยกันสำรวจตัวเองว่าในแวดวงของพวกเรามีเรื่องลิงแบบนี้บ้างไหม เพราะผมมั่นใจว่า พฤติกรรมเช่นที่ว่ามานี้เป็นแรงเสียดทานหรือตัวถ่วงประการหนึ่งที่สำคัญมากต่อการพัฒนาสังคมของเรา
อาจารย์ครับ เรื่องเล่านี้สนุกครับ แต่สืบค้น original paper ไม่มีครับ มีแต่การทดลองของ Stephenson (1967) เรื่อง punishment กับ Kohler (1920s) เรื่อง insight learning จึงเชื่อได้ว่าเป็นเรื่องแต่ง ชื่อ 5 monkey experiment ครับผม
ตอบลบ