วันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2557

รำลึก 10 ปีสึนามิกับรังสีเทคนิคไทย



(190 ครั้ง)
   สุดยอดภัยพิบัติอันดับ 2 ของโลก

     เมื่อ 10 ปีที่แล้วเช้าวันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม 2547 ถัดจากวันคริสต์มาส วันนั้นผมอยู่ที่บ้านไม้เล็กๆสองชั้น ริมคลอง แถวสี่แยกบ้านแขก กรุงเทพฯ ตื่นแต่เช้าประมาณ 7-8 น. เข้าครัวชงกาแฟ ระหว่างนั้นรู้สึกงงๆบ้านไหวเหมือนรถบันทุกหนักวิ่งผ่านหน้าบ้าน (แต่ไม่มีรถบันทุกหนักวิ่งผ่านมา) ทีแรกก็แปลกใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น ไม่ได้คิดถึงแผ่นดินไหวเลย พอถือถ้วยกาแฟมานั่งรับประทานกับซาลาเปาหมูสับของโปรดและดูโทรทัศน์ไปด้วย จึงได้ทราบว่าเกิดแผ่นดินไหวความรุนแรงประมาณ 9.0 ริกเตอร์ ศูนย์กลางอยู่ที่ตอนเหนือของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดเนเซีย ผู้รายงานข่าวทางโทรทัศน์ก็ยังมีสีหน้าเรียบเฉย เวลาผ่านไปประมาณชั่วโมงครึ่ง ผู้รายงานข่าวทางโทรทัศน์เริ่มมีสีหน้าแปลกๆและรายงานแบบตื่นเต้นว่า มีน้ำทะเลเอ่อหนุนสูงอย่างเร็วเข้าท่วมบริเวณชายฝั่งทะเลที่ภูเก็ต พังงา ตอนนั้นยังไม่ได้ยินคำว่าสึนามิ สักพักเริ่มรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ในใจผมคิดว่าไหงมันเป็นอย่างนั้น พอตกตอนบ่ายก็เริ่มมีข่าวสถานการณ์ในพื้นที่ที่เกิดเหตุตลอดเวลา และก็เป็นอย่างที่ชาวเราทราบดีแล้ว นับเป็นโชคดีของประเทศไทยที่มีตอนบนของเกาะสุมาตราบังคลื่นสึนามิไว้บ้าง ทำให้มันสูญเสียพลังงานลงไปกว่าจะมาถึงไทย
เมื่อพูดถึงคลื่นสึนามิครั้งนั้น ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าเกิดจากรอยต่อแผ่นดินที่อยู่ใต้มหาสมุทรอินเดียขยับตัวแรงมาก ทำให้เกิดคลื่นน้ำที่มีพลังงานมหาศาลแผ่ออกไปจากศูนย์กลาง เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงมาก (>500km/hr) เมื่ออยู่ในน้ำลึกความยาวคลื่นยาวมาก (ระยะระหว่างสันคลื่นถึงสันคลื่นถัดกัน) และ amplitude ต่ำ สังเกตเห็นได้ว่าคลื่นเดินทางจากศูนย์กลางแผ่นดินไหว ถึงชายฝั่งพังงา ภูเก็ต กระบี่ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง แต่เมื่อเคลื่อนที่มาถึงชายฝั่ง มันจะมีความเร็วลดลงมาก ความยาวคลื่นก็จะลดลง แต่ในทางตรงกันข้าง amplitude จะสูงขึ้น ตรงนี้เองที่พี่น้องของเราเห็นกับตา น้ำทะเลมันล้นขึ้นมาบนชายฝั่งด้วยความเร็วพอประมาณในระดับที่สูงกว่าระดับปกติ 5-10 เมตร ฉะนั้นชายฝั่งจึงถูกน้ำทะเลกวาดเรียบ พี่น้องเราจึงเสียชีวิตจำนวนมากมายและอย่างไม่ทันตั้งตัวเลย เป็นธรณีพิบัติภัยครั้งร้ายแรงที่สุดที่พี่น้องชาวไทยเคยประสบมา รวมแล้วเสียชีวิตประมาณ 230,000 คน (เฉพาะในประเทศไทยประมาณ 6,000 คน) มูลค่าความเสียหายรวมทุกประเทศที่ได้รับผลกระทบประมาณล้านล้านบาท ตอนนี้ มีการนำเหตุการณ์นี้ไปสร้างเป็นภาพยนต์ จะมีผลกระทบทางจิตใจกับผู้คนที่ได้รับผลกระทบหรือไม่ต้องดูกันไป ผมเชื่อว่ามีอย่างแน่นอน  


คลิปซึ่งเผยแพร่ในเว้ปไซด์สมาคมรังสีเทคนิคแห่งประเทศไทยเมื่อ มกราคม 2548

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมรู้สึกภูมิใจที่เกิดเป็นคนไทย เพราะสัมผัสได้ถึงน้ำใจของคนไทย ที่ไหลไปซับน้ำตาพี่น้องที่ประสบภัย ชนิดที่ผู้คนทั่วโลกทึ่งและชื่นชอบ 

เป็นห่วงชาวเรา นักรังสีเทคนิค รวมทั้งทีมแพทย์ พยาบาล และอีหลายๆทีม ที่ต้องทำหน้าที่ในพื้นที่ประสบภัยในวันเกิดเหตุ ผมคิดว่าวันนั้นชาวเราที่ทำหน้าที่อยู่ต้องเจองานหนักแน่ เพราะจะมีคนเจ็บและผู้เสียชีวิต เข้ามาเอกซเรย์จำนวนมากพร้อมกันในเวลาเดียวกัน และก็จริงตามคำบอกเล่าของชาวเราในพื้นที่ภัยพิบัติว่าหนักหนาสาหัสอย่างยิ่งยวด ในตอนนั้นก็ได้แต่ตั้งจิตอธิษฐานขอให้ชาวเราเข้มแข็งไว้ ทำหน้าที่ให้เต็มที่ ถึงแม้จะไม่มีใครพูดถึงส่วนนี้ก็ไม่เป็นไร แต่ก็ขอให้ทราบว่าพวกเราพอรู้ว่าเป็นอย่างไร 
คนที่ 1,3,4 จากซ้าย คือนักรังสีเทคนิค
ส่วนหนึ่งที่ทุ่มเททำงานในช่วงเวลามหาวิกฤติสึนามิ 
และได้มาเล่าให้ชาวเราฟังในการประชุมวิชาการ
ประจำปีของสมาคมรังสีเทคนิคแห่งประเทศไทย
เมื่อ พ.ศ. 2548

     มองในอีกแง่หนึ่ง มันเหมือนเป็น Act of God ที่บันดาลให้เกิดห้องปฏิบัติการจริงๆขนาดใหญ่ ที่ให้ แพทย์ พยาบาล นักรังสีเทคนิคและทีมอื่นๆ ได้มีโอกาสฝึกภาคปฏิบัติที่หาไม่ได้ง่ายๆ เราจะรับมือกับเหตุฉุกเฉินขนาดใหญ่อย่างนี้อย่างไร มันเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามากเหลือเกินที่เกิดขึ้นกับชาวเราที่อยู่ในเหตุการณ์นั้น แม้ว่าจะเศร้าสลดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงใดก็ตาม 

     อยากจะบอกชาวเราที่ทำหน้าที่ในเหตุการณ์วันนั้นว่าพวกท่านคือ hero ของผม แม้เวลาจะผ่านมา 10 ปีแล้ว แต่เหมือนเพิ่งผ่านไปหยกๆ....ใช่ว่าผมจะยึดติดอดีต แต่อดีตเป็นครูที่ดีของเราเสมอครับ

Related Links:
ผลกระทบแผ่นดินไหวต่อโรงไฟฟ้านิวเคลียร์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น