วันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2568

🩻 นักรังสีเทคนิคในฝัน… เราอยากเป็นแบบไหน?✨☢️

 ผมลองนึกภาพออกมาได้ 4 แบบครับ 👇

A: ผู้มีความสุข 👩‍⚕️🧑‍⚕️

Work-life Balance ดี ก้าวหน้า พักผ่อนพอ รายได้เหมาะสม ได้รับการยอมรับ

B: ผู้เชี่ยวชาญ 🧠

เก่งจริงในสายงาน เช่น CT, MRI, Ultrasound

C: กำลังจะหมดสภาพ 🧟

หมดไฟ ไร้โอกาสพัฒนา (Dead wood)

D: ทำงานไปวันๆ 🥱

รูทีนซ้ำๆ โอกาสก้าวหน้าน้อย

ในอีก 10 ปีข้างหน้า… เราคงอยากเห็นนักรังสีเทคนิคไทยเป็นแบบ A และ B มากกว่า C–D จริงไหมครับ?

---

📌 แต่ความจริงตอนนี้… หลายคนในระบบสาธารณสุขกำลัง “หมดไฟ” เพราะทำงานหนักเกินไป คุณภาพชีวิตลดลง และอาจกระทบความปลอดภัยผู้ป่วย

🎯 ทางออกคือการผลักดัน กฎหมายจำกัดชั่วโมงการทำงาน (ตามลิงค์ )

ไม่เกิน 8 ชม./วัน

ไม่เกิน 48 ชม./สัปดาห์

OT ต้องสมัครใจ และได้อย่างน้อย 1.5 เท่า (ไม่เกิน 36 ชม./สัปดาห์)

ทำวันหยุด ต้องได้ 2 เท่า

ถ้าทำได้จริง เราจะมีคนในระบบสาธารณสุข มีนักรังสีเทคนิคแบบ A มากขึ้น และระบบสาธารณสุขก็จะยั่งยืนขึ้น

---

💡 “ถ้าเราไม่รู้ว่าอนาคตอยากเป็นแบบไหน สิ่งรอบตัวจะชักนำเราไปในทิศทางที่คนอื่นกำหนด”

แล้วชาวเราล่ะครับ…

อยากเป็น นักรังสีเทคนิคแบบไหนในอนาคต?

#นักรังสีเทคนิค #บุคลากรทางการแพทย์ #จำกัดชั่วโมงทำงาน #สาธารณสุข

(ภาพ AI generated)

☢️ภาพเดียว... ล้านความหมาย นักรังสีเทคนิค: #นักสืบแห่งร่างกาย ✨


บื้องหลังภาพที่ช่วยชีวิต... เพราะทุกภาพรังสีที่นักรังสีเทคนิคสร้าง คือกุญแจสำคัญสู่การรักษา

พวกเขาคือ นักสืบที่อ่อนโยน ที่ใช้รังสีเป็นอาวุธ เพื่อไขความลับที่ซ่อนอยู่ในร่างกายคุณ อย่างปลอดภัย

เขาผู้สร้างสิ่งที่มองไม่เห็น ให้มองเห็น เพื่อให้ทีมแพทย์สามารถรักษาได้ทันเวลาและแม่นยำ

#นักรังสีเทคนิค #CT #MRI #US #XRAY [ภาพ AI Generated]
🩻 เมื่อ AI เข้ามา… นักรังสีเทคนิคจะหายไปหรือก้าวไกลกว่าเดิม?

🏡 #สภารังสีเทคนิค บ้านที่ชาวเราสร้างด้วยหัวใจของนักรังสีเทคนิค ✨

 #วันที่การเมืองไทยวุ่นวายที่สุด

ในฐานะคนหนึ่งที่คลุกคลี อยู่กับวิชาชีพรังสีเทคนิคมาตลอดชีวิต... ผมเฝ้าดูการเติบโตของวิชาชีพนี้ด้วยความภาคภูมิใจ และวันนี้... ก้าวสำคัญที่รอคอยกำลังใกล้เข้ามา — การมี “บ้าน” เป็นของตัวเอง บ้านที่เรียกว่า “สภารังสีเทคนิค”

🎯ปฐมบท "ใบประกอบโรคศิลปะ สาขารังสีเทคนิค"


10 พฤษภาคม 2542 ประกาศใช้พระราชบัญญัติการประกอบโรศิลปะ

23 กรกฎาคม 2545 ประกาศใช้กฤษฎีกากำหนดให้รังสีเทคนิคเป็นสาขาการประกอบโรคศิลปะ [ปัจจุบันกฤษฎีกานี้ได้ยกเลิกแล้ว แต่ได้ยกข้อความสำคัญไปไว้ในพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2556] จากนั้นจึงได้มีการดำเนินการให้นักรังสีเทคนิคมาขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขารังสีเทคนิค

27 พฤษภาคม 2547 นักรังสีเทคนิคจำนวน 56 คน สอบผ่านได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขารังสีเทคนิค เป็นกลุ่มแรก คุณสมบัติของกลุ่มนี้คือ เป็นผู้มีประสบการณ์ทำงานด้านรังสีเทคนิคมากกว่า 25 ปี

12 ธันวาคม 2547 นักรังสีเทคนิคทั่วประเทศเข้าสอบเพื่อขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขารังสีเทคนิค จำนวน 1,256 คน สนามสอบจัดขึ้นที่ ห้องประชุมชั้นที่ 12 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลราชวิถี กรุงเทพ

🎯ปฐมบทเดินหน้าสู่สภารังสีเทคนิค

26 เมษายน 2549 ในการประชุมวิชาการรังสีเทคนิคประจำปี 2549 ที่พัทยา เป็นครั้งแรกที่นายกสมาคมด้านรังสีเทคนิคของไทย 5 สมาคมฯ มาร่วมกันเขียนประวัติศาสตร์ด้วยการแสดงมุมมองเกี่ยวกับอนาคตของรังสีเทคนิคไทย ต่อหน้าชาวเราที่เข้าร่วมประชุมกว่า 350 คน และเสนอแนวคิด สภารังสีเทคนิค การเดินหน้าสู่สภาวิชาชีพ ต้องไม่ใช่เดินหน้าเพื่อตัวเอง แต่เรามองสิ่งที่ชาวประชาจะได้ประโยชน์เป็นหลัก

15 มกราคม 2562 คณะกรรมการยกร่างสภารังสีเทคนิค แต่งตั้งโดยสมาคมรังสีเทคนิคแห่งประเทศไทย ได้มีการประชุมครั้งแรก ที่โรงแรมรอยัลริเวอร์ และในเวลาต่อมา มีการประชุมพิจารณาร่างสภารังสีเทคนิคอีกไม่น้อยกว่า 3 ครั้ง

21 ธันวาคม 2564 "ประชาพิจารณ์ ร่าง พรบ.วิชาชีพรังสีเทคนิค" หรือง่ายๆคือสภารังสีเทคนิค ในการประชุมวิชาการสมาคมรังสีเทคนิคแห่งประเทศไทย  ณ โรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ กรุงเทพ และออนไลน์

6 พฤษภาคม 2565 ประชาพิจารณ์ พระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม รองรับ พระราชบัญญัติสภารังสีเทคนิค โดยกองกฎหมาย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

18 มีนาคม 2568 ครม.อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติวิชาชีพรังสีเทคนิค พ.ศ. .... หรือ พรบ.สภารังสีเทคนิค

กรกฎาคม-สิงหาคม 2568 ประชาพิจารณ์ ร่างพรบ.สภารังสีเทคนิค และ ร่างพรบ.การประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. 2542 ที่แก้ไขเพิ่มเติม

รออีกนิด เมื่อผ่านสภาผู้แทนราษฎร ชาวเราจะได้มี พรบ.สภารังสีเทคนิค ที่รอคอยเป็นของตัวเอง

🎯จาก ก.ช. สู่ สภา

เป็นเรื่องธรรมดา เมื่อการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่ประวัติศาสตร์รังสีเทคนิคไทยต้องบันทึกไว้ กำลังจะมาถึง จาก "คณะกรรมการวิชาชีพ" สู่ "สภารังสีเทคนิค" ความรู้สึกที่หลากหลายย่อมเกิดขึ้น ทั้งความหวัง ความตื่นเต้น และความกังวลในเวลาเดียวกัน

แต่ขอให้ชาวเราเชื่อมั่น นี่ไม่ใช่การเพิ่มภาระ แต่คือโอกาสครั้งสำคัญของวิชาชีพรังสีเทคนิค ในการสร้าง “บ้าน” ที่เป็นของพวกเรา "นักรังสีเทคนิค" เอง

🛡️ บ้านที่มีมาตรฐาน: Standard

บ้านที่เราจะช่วยกันกำหนดและยกระดับมาตรฐานวิชาชีพ เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นในสิ่งที่เราทำ เพราะผู้ป่วยต้องมาก่อนเสมอ (Patient Focus)

🎖️ บ้านที่มีเกียรติ: Honor

บ้านที่คุ้มครองศักดิ์ศรี ปกป้องสิทธิ์ และยืนหยัดเคียงข้างนักรังสีเทคนิคทุกคนอย่างภาคภูมิ

🚀 บ้านที่มีอนาคต: Future


บ้านที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เปิดโอกาสให้พวกเราเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ พัฒนาอย่างก้าวทันเทคโนโลยี และร่วมผลักดันคนรุ่นใหม่ให้เติบโต (Career Path, Life Long Learning)

ใช่ครับ การสร้างบ้านหลังนี้ต้องใช้งบประมาณมาก เวลา อดทน และฝ่าฟัน แต่เมื่อมันสำเร็จ มันจะไม่ใช่แค่บ้านของใครบางคน แต่มันคือบ้านของ “ชาวเราทุกคน” ที่จะอยู่เป็นรากฐานที่มั่นคงเพื่อประชาชน และคนในวิชาชีพนี้ไปอีกตราบนานเท่านาน ชั่วลูกชั่วหลาน

ขอส่งแรงใจให้ชาวเราทุกคน เรากำลังจะได้มีบ้านที่เราภูมิใจ ด้วยมือของเราเอง 💙

🎯แต่ว่า บันทึกนี้ตรงกับวันที่ 29 สิงหาคม 2568 วันที่การเมืองไทยวุ่นวายที่สุด คณะรัฐมนตรี กลายเป็นรัฐมนตรีรักษาการทั้งคณะ

ขณะที่ ร่างพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ (ฉบับที่..) พ.ศ. .... ซึ่งมีสาระสำคัญ เป็นการยกเลิกบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับการประกอบโรคศิลปะสาขารังสีเทคนิค ออกจากพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อให้สอดคล้องกับการมีผลใช้บังคับของกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพรังสีเทคนิค ที่แยกการประกอบโรคศิลปะสาขารังสีเทคนิค ไปบัญญัติไว้ในกฎหมายเฉพาะ คือพรบ.สภารังสี ยังอยู่ในระหว่างการประชาพิจารณ์ 20 สิงหาคม - 3 กันยายน 2568

น่าเป็นห่วงว่าจะถูกลากยาว

อย่างไรก็ตาม ขอชาวเราจงเชื่อมั่นว่า...

การบริการด้านรังสีเทคนิคของไทย เป็นบริการที่มีคุณภาพ น่าไว้วางใจในทุกมิติ ทุกขั้นตอน ทุกเวลา สำหรับคนทุกคน ก็ด้วยการพัฒนาอย่างไม่ออมมือ เต็มศักยภาพที่มนุษย์สร้างสรรค์พึงทำได้” ไม่ว่าจะมีอุปสรรคอะไร

#ประกายรังสีรำพึง ☢️

#60ปีรังสีเทคนิคไทย #รังสีเทคนิค #สภารังสีเทคนิค #บ้านของนักรังสีเทคนิค #รังสีเทคนิคไทยก้าวไกล

[ภาพบางภาพ AI Generated]

🩻 เมื่อ AI เข้ามา… นักรังสีเทคนิคจะหายไปหรือก้าวไกลกว่าเดิม?✨

คำถามนี้คล้ายกับคำถามที่ว่า เมื่อกล้องดิจิทัลเข้ามา… ช่างภาพฟิล์มหายไปหรือเก่งขึ้น? คำตอบก็คือ ช่างภาพบางคนอาจเลิกถ่ายไป แต่ช่างภาพอีกมากมายก็ได้ใช้เทคโนโลยีใหม่นี้เพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่น่าทึ่งกว่าเดิม

สำหรับวงการรังสีเทคนิค คำตอบจากองค์กรวิชาชีพชั้นนำอย่าง สมาคมนักรังสีเทคนิคนานาชาติ (ISRRT) ชี้ชัดว่า "นี่ไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นจุดเริ่มต้นของบทบาทใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม" ครับชาวเรา

🤖 AI ช่วยยกระดับ แต่ไม่สามารถแทนที่ "ความเป็นมนุษย์" ได้

🤖 AI วิเคราะห์ภาพได้ แต่ไม่เข้าใจ “ผู้ป่วย”

🤖 AI Robot ช่วยจัดท่าได้ แต่ไม่สร้าง “ความไว้วางใจ”

🎯AI อาจเป็นอนาคตของเทคโนโลยี แต่ ‘นักรังสีเทคนิค’ คืออนาคตของการดูแลผู้ป่วย ยกระดับบทบาท สู่ผู้ควบคุมคุณภาพ และขับเคลื่อนเทคโนโลยีให้ก้าวหน้า

🎯AI ไม่ได้มาเพื่อแทนที่นักรังสีเทคนิค แต่นักรังสีเทคนิคจะถูกแทนที่ด้วย นักรังสีเทคนิคที่รู้และใช้ AI เป็น

#AI #นักรังสีเทคนิค #นักรังสีเทคนิคแห่งอนาคต

(ภาพ AI Generated)

1 ตุลาคม 1971: วันที่ภาพสมองเปลี่ยนโลก✨


เช้าวันหนึ่งในกรุงลอนดอน ที่โรงพยาบาล
Atkinson Morley ไม่มีใครคาดคิดว่า เหตุการณ์เล็ก ๆ ในห้องแคบ ๆ จะถูกบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์การแพทย์โลก วันนั้นคือ 1 ตุลาคม 1971 วันที่เครื่องมือใหม่ซึ่งดูแปลกตา ได้ถูกนำมาใช้ตรวจสมองผู้ป่วยหญิงเป็นครั้งแรก

สิ่งที่ปรากฏบนจอมอนิเตอร์ในวันนั้น ไม่ใช่ภาพถ่ายเอกซเรย์แบบที่โลกคุ้นเคย แต่คือ “ภาพตัดขวาง” ของสมองมนุษย์ — ภาพที่ค่อย ๆ ประกอบขึ้นด้วยคอมพิวเตอร์ทีละจุด ทีละเส้น คล้ายการเปิดม่านให้เห็นความลับที่ซ่อนอยู่ภายในกะโหลก โดยไม่มีการซ้อนทับของเงาของอวัยวะต่างๆ

มันคือการก่อกำเนิดของ Computed Tomography (CT) หรือที่เรารู้จักกันว่า CT Scan

🌲แรงบันดาลใจจากทุ่งนา สู่นวัตกรรมระดับโลก

สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้ยิ่งน่าทึ่งคือ ต้นกำเนิดความคิด Sir Godfrey Hounsfield ไม่ได้เริ่มต้นจากห้องแล็บหรูหรา หรือมหาวิทยาลัยชั้นนำ แต่เริ่มจากความสงสัยในธรรมชาติรอบตัว

เขาเคยเล่าว่าแนวคิด CT เกิดขึ้นระหว่างการเดินเล่นในชนบท เมื่อจินตนาการว่า "ถ้าเรามองวัตถุหนึ่งจากหลาย ๆ มุม แล้วนำข้อมูลทั้งหมดมาประกอบเข้าด้วยกัน เราอาจสร้างภาพภายใน ที่ไม่เคยมีใครเห็นได้"

จากความคิดเล็ก ๆ นั้น สู่การทดลอง สู่เครื่องต้นแบบ และในที่สุดก็สู่ห้องตรวจที่เปลี่ยนวิธีการวินิจฉัยโรคไปตลอดกาล

🩻เมื่อภาพหนึ่งภาพ มีค่ามากกว่าพันคำบรรยาย

ก่อนหน้าการมาของ CT การตรวจหาความผิดปกติในสมองเป็นเรื่องยาก แพทย์ต้องพึ่งพาการเจาะ การฉีดสี หรือแม้กระทั่งการผ่าตัดสำรวจ ซึ่งเสี่ยงและเจ็บปวด

แต่เมื่อภาพ CT แรกปรากฏขึ้น ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ภาพนั้นไม่เพียงแสดงโครงสร้าง แต่ยังเปิดประตูให้แพทย์เห็น “สิ่งที่ซ่อนอยู่” — เนื้องอก เลือดออก หรือความผิดปกติเล็ก ๆ ที่เคยเป็นไปไม่ได้ที่จะเห็น

มันคือการเปิดโลกใหม่ของการแพทย์ และเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ Sir Godfrey Hounsfield และ Allan Cormack ได้รับ รางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยาหรือการแพทย์ ในปี 1979

💎มรดกแห่งความกล้าที่จะฝัน

ทุกวันที่ 1 ตุลาคม จึงไม่ใช่แค่วันครบรอบการใช้ CT ครั้งแรกในโลก แต่คือการรำลึกถึง พลังของความคิดสร้างสรรค์ ที่เกิดจากความสงสัยเล็ก ๆ ของมนุษย์ และความกล้าที่จะทดลองในสิ่งที่คนอื่นไม่เคยคิดทำ

มันเตือนใจเราว่า วิทยาศาสตร์และนวัตกรรมไม่ได้เริ่มจากความสมบูรณ์แบบ แต่มาจากความฝัน ความพยายาม และการไม่ยอมแพ้

จากวันนั้น ถึงวันนี้

กว่า 50 ปีผ่านไป CT กลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่สุดในวงการแพทย์ ช่วยชีวิตผู้คนนับล้านทั่วโลก และยังคงพัฒนาไปไกลยิ่งขึ้น ทั้งความเร็ว ความคมชัด และการลดปริมาณรังสี

แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยน คือ บทเรียนจาก 1 ตุลาคม 1971 — วันที่ความคิดของคนหนึ่ง สามารถเปลี่ยนชะตาของมนุษยชาติได้

ดังนั้น การรำลึกถึงวันนั้น จึงไม่ใช่เพียงการย้อนมองเทคโนโลยี แต่เป็นการถามตัวเองว่า

“วันนี้ เรากำลังกล้าพอที่จะฝัน และทำให้ฝันนั้นกลายเป็นจริงเหมือนที่ Hounsfield ทำไว้หรือไม่?”

#54yearsCT #CT #เอกซเรย์คอมพิวเตอร์