สสจ.นครศรีธรรมราชได้เชิญผมไปบรรยาย
“กฎหมายและจรรยาบรรณสำหรับงานรังสีและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทางรังสี”
โดยการประสานของของหนูเก่ง
กำหนดให้ผมบรรยายในวันที่ 8 สิงหาคม 2557 ทั้งวันโดย เน้นเรื่องความก้าวหน้าทางด้าน CT,MRI ส่วนวันที่ 7 สิงหาคม 2557 ทั้งวันจะเป็นการบรรยายโดย อ.อำไพ อุไรเวโรจนากร
เน้นเรื่องกฎหมายและจรรยาบรรณครับ ผู้เข้าฟังก็เป็นชาวเราที่ปฏิบัติงานด้านรังสีเทคนิคในเขตจังหวัดนครศรีธรรมราชทุกอำเภอ
ระหว่างเตรียมการไปบรรยาย
มีเหตุการณ์คาดไม่ถึงบางอย่างเกิดขึ้นที่อำเภอทุ่งสง ซึ่งกระทบจรรยาบรรณวิชาชีพรังสีเทคนิคอย่างมาก
ทำให้ผมในฐานะอนุกรรมการฯด้านจรรยาบรรณเพิ่งแต่งตั้งใหม่หมาดๆเลย มีความจำเป็นต้องเลื่อนกำหนดการเดินทางไปเมืองคอนให้เร็วขึ้น
คือเดินทางไปตั้งแต่เย็นวันพุธที่ 6 สิงหาคม 2557 พร้อม อ.อำไพ ประธานอนุกรรมการฯด้านจรรยาบรรณ หลังจากประชุมคณะอนุกรรมการฯด้านจรรยาบรรณในช่วงเช้าเสร็จสิ้นลง
และทำให้คณะสสจ.ผู้จัดต้องปรับช่วงเวลาโปรแกรมการบรรยายให้สอดคล้องกับการไปคราวนี้
ผมเดินทางโดยเครื่องบินนกแอร์
ออกจากสนามบินดอนเมืองเวลาประมาณ 17:00 น. ถึงสนามบินนครศรีธรรมราชประมาณ 18:00 น. จากนั้นคุณอภิชาและหนูเก่งที่มารับก็ขับรถพาไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารชายทะเล
ท่าศาลา ไปถึงใกล้เวลา 20:00 น.และมีชาวเราตามมาสมทบเพิ่มเติม มืดแล้ว มองไม่เห็นทะเล เห็นแต่ไฟแสงสว่างจากเรือประมง
มีชาวเรา 6 คนนั่งรับประทานอาหารอยู่โต๊ะเดียว
อาหารทะเลทุกเมนูอร่อยมาก เราคุยกันหลายเรื่อง ทั้งเบาและหนัก เป็นการเพิ่มรสชาติอาหารได้ดียิ่ง
กว่าจะถึงโรงแรมที่พักทวินโลตัสก็เกือบสีทุ่ม
อาหารทะเลที่ชายหาดท่าศาลา |
เช้าวันที่ 7 อ.อำไพเริ่มบรรยายเป็นคนแรก ผมยังไม่มีคิวบรรยาย
จึงมีเวลาหาข้อมูลที่เรือนจำทุ่งสง และได้รับความช่วยเหลือจากคุณสมศักดิ์ช่วยขับรถพาไป-กลับพร้อมชาวเรา
และได้รับความช่วยเหลืออย่างมากจากคุณอำนาจชาวเราที่ทุ่งสง
จนสามารถได้ข้อมูลที่เกินกว่าที่ผมคาดการณ์ไว้มาก ผมกลับมาที่เมืองคอนตอนเที่ยงวัน
รับประทานอาหารที่โรงแรมและเริ่มบรรยายช่วงบ่าย เป็นเวลาเดียวกัน
อ.อำไพก็เดินทางไปโรงพยาบาลทุ่งสง
ที่เรือนจำทุ่งสง
ผมได้ตระหนักอีกครั้งว่า เมื่อไรก็ตามที่เราขาดสติ
เราสามารถทำสิ่งเลวร้ายได้อย่างคาดไม่ถึง และผลเสียหายผลกระทบที่เกิดขึ้นกับตัวผู้ขาดสติเอง
มันจะเกินเยียวยาจริงๆ..ชาวเราพึงฝึกเจริญสติเป็นประจำ
จะทำการสิ่งใดให้ระลึกรู้ตัวตลอดเป็นยอดดี
อาหารปักษ์ใต้แท้ๆ จี๊ดจ๊าด |
เช้าวันรุ่งขึ้นวันที่ 8 หนูเก่งแจ้งมาทาง FB ว่า ตอนเที่ยงจะมารับผมและอ.อำไพไปชิมขนมจีนพานยม
(ขนมจีนเมืองคอน) บอกว่า ถ้ามาเมืองคอนแล้วไม่มาชิมร้านนี้ ก็ยังไม่ถึงเมืองคอน ทำให้ยิ่งน่าสนใจมาก
พอถึงเที่ยงวัน หนูเก่งและคุณอาทิตย์ก็ขับรถมารับที่โรงแรมทวินโลตัส พาไปชิมขนมจีนเมืองคอน
อร่อยสมคำล่ำลือจริงๆ เส้นขนมจีนทำกันสดๆ เส้นไม่ใหญ่มาก นุ่ม ไม่มีกลิ่น สดมากๆ
ทานกับน้ำยา(กะทิ,ป่า) น้ำพริก แกงไตปลา แกงเขียวหวานไก่ ตักได้ตามสบาย
และมีผักนานาชนิดทางปักษ์ใต้ให้เลือกทานได้อย่างมากมายไม่อั้น ราคาไม่แพง ที่ด้านข้างร้านพานยม
มีร้านขายมังคุดคัดเสียบไม้ ขายไม้ละ 10 บาท รายละเอียดดูในวิดีโอคลิปนะครับ อร่อยมาก ทั้งนุ่ม
ทั้งกรอบ
ขนมจีนเมืองคอน |
หลังจากนั้น อ.อำไพเดินทางกลับกรุงเทพฯก่อน
ส่วนผมกลับมาบรรยายตอนบ่ายต่ออีกครั้ง ทีแรกตั้งใจจะเลิก 17:00 น. เพราะเครื่องบินกลับกรุงเทพฯออกเวลา 20:10
น.
แต่ได้รับแจ้งว่า ชาวเราหลายคนต้องไปงานแต่งงาน วันนี้วันดี ก็เลยต้องพยายามให้จบเวลา
15:00 น. สังเกตว่า
ที่โรงแรมทวินโลตัส มีงานแต่งงานหลายงานทั้งสองวันที่ผมไปพัก
คุณอภิชาเดินมาบอกผมว่า “อาจารย์ครับผมเตรียมทุเรียนกวนมาฝากกลับบ้านด้วยครับ”
คุณอาทิตย์ “ฝากมังคุด เงาะสดๆจากต้น สะตอ ครับอาจารย์”
....ฯลฯ...
ของฝากจำนวนมากนั้น
ชาวเราได้แพ็คใส่ถุงขนาดใหญ่ให้อย่างดีหนัก 13 กิโลกรัม ขึ้นเครื่องแอร์เอเชียได้ครับไม่มีปัญหาเรื่องน้ำหนัก
ที่หนักกว่านั้นมากมายคือ น้ำใจของชาวเราที่เมืองคอนและทุ่งสง ที่ผมได้รับมาซึ่งตาชั่งของแอร์เอเซียตรวจจับไม่ได้
ผมนั่งอิ่มใจอยู่คนเดียวที่สนามบินระหว่างรอเครื่องขึ้น และได้ใช้เวลาเงียบๆคิดทบทวนหลายเรื่องแล้วรีบบันทึกกลัวลืมสาระสำคัญไป.....ขอบคุณชาวเรามากๆครับ