วันจันทร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2556

อยู่รอดให้ถูกต้อง


หลายปีมาแล้ว ผมไปเป็น Lead เยี่ยมสำรวจภาควิชาหนึ่งในคณะเทคนิคการแพทย์ที่ศาลายา ตามมาตรฐาน MUQD ได้คุยกับอาจารย์ของหน่วยงานนั้นหลายท่านที่เชิญมาให้ผมสัมภาษณ์พร้อมๆกันอยู่นาน จึงได้สัมผัสความทุกข์ของอาจารย์เหล่านั้น ส่วนมากเป็นทุกข์ที่เกิดจากการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ร่วมงานที่มีความคิด มีความต้องการไม่ตรงกัน และไม่อาจปรับเข้าหากันได้

ตอนหนึ่ง อาจารย์ท่านหนึ่งที่ผมสัมภาษณ์ก็พูดว่า
"หนูจำคำพูดของอาจารย์ (หมายถึงผม) ได้ และประทับใจมาก ยังจำได้แม่นค่ะ ตอนนั้นอาจารย์พูดออกความเห็นในที่ประชุมบุคลากรของคณะฯว่า ......เราต้องทำหน้าที่ของเราเพื่อความอยู่รอดอย่างถูกต้อง......หนูจึงต้องอยู่ต่อไปให้รอดอย่างถูกต้องค่ะ"
ผมก็ให้กำลังใจอาจารย์เค้า และแอบอุทานในใจเบาๆว่า!!! สิ่งที่ผมพูดวันนั้นนานมาแล้ว ยังมีคนจำได้อีกหรือนี่
ความหมายที่พูดต่อประชาคมทั้งคณะวันนั้น ไม่มีอะไรลึกซึ้งครับ ตรงไปตรงมา ต้องการเปิดมุมมองในการทำหน้าที่ของเรา ทั้งที่บ้านและที่ทำงาน หรือในสังคมวงกว้าง
ตัวอย่างเช่น....คนที่เป็นโจร ถ้าเขาคิดว่า เขามีหน้าที่ปล้น เขาก็ตั้งใจทำหน้าที่อย่างดีเยี่ยมด้วยการคิดค้นวิธีปล้นคนอื่น ด้วยวิธีการที่หลากหลาย สามารถบรรลุผลสำเร็จทุกครั้ง และทำให้เขาอยู่รอดได้ (ลอยนวล) ถามว่าถูกต้องไหม??? ผมว่าไม่ถูกต้อง แม้ตัวเองจะรอดด้วยการปล้นคนอื่น แต่ก็ไปสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น อย่างนี้ไม่ถูกต้องครับ "คืออยู่รอดแต่ไม่ถูกต้อง สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น" วันนั้นคิดเท่านั้น

มาถึงวันนี้ ได้เห็นและได้เรียนรู้เพิ่มขึ้นว่า
 บางคนทำงานหรือใช้ชีวิตโดยใช้ IQ มากเกินไป
คือคนที่ทำงานโดยใช้ IQ หรือสมองที่เรียนรู้ความรู้ทางโลก ความฉลาดทางโลก เช่น วิทยาศาสตร์ จนรู้เรื่องนั้นดี และใช้ความรู้นั้นทำงาน ได้เงินทองมากมายมาเลี้ยงชีวิตจนตายก็ไม่หมด จึงมีโอกาสสูงที่คนแบบนี้จะเอารัดเอาเปรียบผู้อื่นอยู่เสมอๆเมื่อมีโอกาสและโดยไม่รู้ตัว
ได้เห็นบางคนมี EQ+ธรรม ต่ำ ไม่สามารถควบคุมอารมย์ของตัวเองได้ ขาดเข็มทิศนำทางชีวิตไปสู่ความสุขสงบ อย่างน่าสงสารและน่าเสียดาย ทั้งที่ได้โอกาสเกิดมาเป็นมนุษย์ที่มีความฉลาดทางโลกแล้ว
นั่นเป็นสภาวะที่ขาดสมดุลอย่างยิ่ง ระหว่างการมี IQ กับการมี EQ+ธรรม
คือ ผมคิดว่า ชาวเราควรมีทั้งสองอย่างให้สมดุล เราไม่อาจขาดอย่างใดอย่างหนึ่งได้ มันต้องสมดุล ไม่ใช่อยู่ตรงกลางระหว่าง IQ กับ EQ+ธรรม มันต่างกันครับระหว่างสมดุลกับอยู่ตรงกลาง สมดุลคือต้องมีทั้งสองอย่าง แต่ตรงกลางคือไม่มีทั้งสองอย่าง
ยิ่งชาวเรามี IQ สูง ก็ยิ่งต้องมี EQ+ธรรม ที่สูงมากตามไปด้วย
หาไม่แล้ว เราก็จะใช้ IQ ของเราไปในการแสวงหาประโยชน์ใส่ตนอย่างสุดเหวี่ยง อยู่ในความมืดสีขาวคือความมืดที่โอบล้อมด้วยกิเลศอย่างแท้จริง จนตัวเองหลงไปว่านั้นคือสิ่งที่ดีแล้วสำหรับชีวิต มองไม่เห็นบาปบุญคุณโทษและเวรกรรม
ชาวเราเป็นเช่นนี้ไหมครับ 
      อย่าคิดว่า ทำงานโดยใช้สมองทางโลกอย่างเดียวจะดีเลิศประเสริฐศรีนะครับ
      อันตรายนะครับ
ต้องทำงานเพื่อความสวยงามและเกิดความเจริญงอกงามของส่วนรวม ไม่ต้องถามว่า ทำแล้วเราจะได้อะไร เพราะจะเกิดความลังเลในการทำให้ดี ถ้าทำเพื่อส่วนรวมให้ดีแล้ว ก็ดีแล้ว แค่นั้น

2 ความคิดเห็น:

  1. สมบูรณ์ วงศาวาส.....
    ความถูกต้องสำหรับคนยุคนี้คืออะไรครับ คนโกงมีคนนับถือกราบไหว้ คนดีต้องหลบลี้หนีภัยถ้าไม่เข้าพวกด้วย หากสังคมยังปากว่าตาขยิบ ผู้ใหญ่ยังไม่ทำตัวเป็นเยี่ยงอย่างเด็กก้อคงไม่รู้ผิดถูกชั่วดี

    Thida Niyomthai.....
    ได้ใจความค่ะ
    อยากให้ทุกคนคิดแบบนี้ค่ะ
    เป็นการมองแบบความเป็นจริง น่าจะทำได้จริงโดยไม่ลำบากนัก
    แต่.... ถ้าทำให้คนอื่นได้บ้าง แบบไม่ลำบากนักค่ะ
    น่าจะดีกว่านะคะ

    อนุชิต สมหาญวงค์.....
    ครับ ความถูกต้องความเป็นธรรมต้องมีในสังคม ครับผม

    ธารารัตน์ อ่อนอินทร์.....
    ถ้าทำหน้าที่ แล้วอยู่ไม่รอดล่ะอาจารย์ทำไงดี ^_^

    Manus Mongkolsuk.....
    ถ้าได้ทำหน้าที่แล้ว ต้องอยู่รอดครับ...
    ร่างกายของเรา ถ้าอวัยวะทุกอย่างทำหน้าที่ของมันอย่างถูกต้อง ก็อยู่รอด ถ้าบางส่วนไม่ทำหน้าที่ เราก็อาจรอดแต่ลำบากหรืออาจไม่รอดและตายไป ไม่ใช่เราตายคนเดียวอวัยวะนั้นก็ตายด้วยครับ

    สมบูรณ์ วงศาวาส.....
    อันนี้เห็นด้วย แบบว่าก้มหน้าก้มตาทำไป สมองเป็นมะเร็งก็ช่างมันเนอะอาจารย์

    Sunisa Yungyuen....
    เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ

    Pi Chet....
    ‎"ถึงวันหนึ่ง เราจะต้องเลือกทำระหว่างสิ่งที่ง่าย กับสิ่งที่ถูกต้อง" บางตอนจาก Harry Potter ครับ

    สมบูรณ์ วงศาวาส.....
    ทำดีนั้นทำยากอยู่แล้ว โดยธรรมชาติจิตคนชอบไหลลงที่ต่ำเหมือนน้ำครับ

    Manus Mongkolsuk.....
    เข้าใจเปรียบเทียบครับ.... ฟังดูเหมือนจิตมีมวล(mass) แล้วเกิดแรงดึงดูดกับโลก จิตเลยมักตกติดดิน ถ้าเผลอนะ แต่ถ้ามีแรงยกอยู่เรื่อยๆจนชินก็ตกยาก คือต้องฝึกให้ชิน
    เหมือนเราอยู่ในอากาศหายใจเข้าไปทุกวัน เราชินว่ามีอากาศหุ้มรอบตัวเรา จริงรึเปล่า (เหมือนคำกล่าวที่ว่า...นกไม่เห็นฟ้า ปลาไม่เห็นน้ำ) เราต้องฝึกไหมครับที่จะอยู่ในอากาศ ผมว่าเราต้องปรับตัว ไม่เรียกว่าฝึกแล้วกัน หมายถึง ตอนที่เราอยู่ในท้องแม่ เราแช่น้ำ เราอยู่ในน้ำ แต่พอคลอดจากท้องแม่ใหม่ๆ ความดันเปลี่ยน ผมว่าเราต้องปรับตัวเพื่ออยู่ในอากาศ ความดัน 1 atm พอโตเราก็ชิน เวลาของเราส่วนใหญ่จึงลืมไปว่ามีอากาศรอบตัวเรา
    ถ้าเราฝึกยกจิตไม่ให้จิตตก นานเข้าก็ชินครับ แล้วเวลาส่วนใหญ่จิตเราจะไม่ตกง่ายๆ

    สมบูรณ์ วงศาวาส.....
    ใช่ครับ อาจารย์ ดังนั้น ต้องหมั่นยกจิตใจไม่ให้ตกครับ ยอดเยี่ยมครับ คำนี้ น่านำไปปฎิบัติ

    ตอบลบ
  2. Sakiyah Wangji....
    โลกใบนี้จะน่าอยู่ขึ้นเยอะหากมนุษย์มี IQ และ EQ อย่างสมดุล

    ธารารัตน์ อ่อนอินทร์.....
    ต่อไปใช้สมองลดน้อยลงล่ะอาจารย์ ^^

    ตอบลบ